(ฉบับภาษาไทย)
โครงการนี้เป็นการเตรียม concept paper ให้กับการประชุม Global Platform for DRR เพื่อการลดความเสี่ยงทางภัยพิบัติ ครั้งที่ 4 (UNISDR, 2012) ได้ระบุไว้ การลงทุนจากภาคส่วนเอกชนในระดับสากล นั้นมีถึง ร้อยละ 85 ซึ่งรวมถึงบริษัทที่มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง และนักลงทุนอิสระ โดยการลงทุนเหล่านี้ส่วนมากเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการก่อสร้างดังนั้นภาคส่วนเอกชนจึงได้ถูกกำหนดว่าเป็นผู้มีบทบาทที่สำคัญในการนำแนวคิดการลดความเสี่ยงทางภัยพิบัติ หรือ DRR เข้าไปสู่การพัฒนา หรือ การฟื้นฟูชุมชนต่างๆ ในระดับสากล ดังนั้นรายงานการประเมินของ UNISDR ปี 2013 นี้ได้ทำการศึกษาถึงการลงทุนของภาคเอกชน ว่าจะสามารถเป็นกลไกลในการขับเคลื่อนในการลดความเสี่ยงและเป็นการนำเสนองานวิจัยด้านนโยบายว่าภาคส่วนเอกชนจะสามารถมีตัวอย่างในการลงทุนเพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างไร

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ สร้างกรณีศึกษาที่ภาคเอกชนมีส่วนในการเพิ่มความเสี่ยงจากภัยพิบัติจากการลงทุนในสิ่งปลูกสร้างหรือการก่อสร้าง เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุของสิ่งเหล่านี้ และสำรวจถึงทัศนคติของทางภาครัฐหรือภาคส่วนอื่นๆ ของสังคมที่ต้องเป็นผู้แบกรับกับความเสี่ยงเหล่านี้ นอกไปจากนั้นโครงการนี้ยังมุ่งค้นหาวิธีการใหม่ สิ่งจูงใจ กฎระเบียบ และ ตัวอย่างที่ภาคเอกชนสามารถมีส่วนหรือได้มีส่วนแล้วในการช่วยลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติจากสิ่งปลูกสร้าง

ในการวิจัยจะมีการยกตัวอย่างกรณีศึกษาเรื่องนี้มาอยู่ 4 เมือง อันได้แก่ กรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ, กรุงลากอส ประเทศไนจีเรีย, กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และสหราชอาณาจักร ซึ่งการศึกษาเหล่านี้จะนำมาสู่เรื่องของอิทธิพลของภาคเอกชนที่มีต่อการพัฒนา ภายใต้บริบททางด้านกฎระเบียบต่างๆ การปกครอง และ เศรษฐศาสตร์การเมืองพัฒนา กรณีศึกษาที่ได้ถูกเลือกมานั้น มาจากการทบทวนวรรณกรรมในกรอบของ การจัดการก่อสร้าง ภัยพิบัติและสิ่งปลูกสร้าง และการพัฒนาเมือง